ผลไม้วิตามินซีสูง
วิตามินซี หรือ ชื่อเต็มว่า Ascobic Acid เป็นวิตามินที่เราไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องรับประทานเข้าไป หน้าที่หลักๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากขบวนการในร่างกายของเรา หรือจากมลพิษ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา จะทำให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายด้วยเหมือนกัน ในการสร้างคอลลาเจนจะช่วยในการลดริ้วรอย ด่างดำ รอยสิวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวที่คล้ำเสียจากแสงแดดให้ดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งผลไม้เนี่ยแหล่ะ ที่จะมีวิตามินซี ที่เราควรจะรู้และรับประทาน เพื่อให้ผิวพรรณของเราสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ
มะขามป้อม เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้ชนิตอื่นๆ เพราะมีข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย ยืนยันมาว่า ในมะขามป้อมผลสด 100 กรัม จะมีวิตามินซีแฝงอยู่ถึง 276 มิลลิกรัม หรือถ้านำผลมะขามป้อมไปคั้นน้ำดื่มก็ยังมีวิตามินซีสูงกว่าน้ำส้มคั้นถึง 20 เท่า และในมะขามป้อมก็เลยสามารถแก้หวัดได้ และยังช่วยละลายเสมหะ แก้ไอได้ดีอีกด้วย
มะเขือเทศ จะช่วยชะลอวัยให้อ่อนเยาว์ ก็คือช่วยชะลอความแก่นั่นเอง และยังช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี สามารถรับประทานเล่นหรือจะนำมาปั่นเป็นน้ำผลไม้ทานก็จะดีต่อสุขภาพผิว และสามารถนำมามาส์กหน้าได้ โดยการผสมน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาวสด 2-4 หยด แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะเขือเทศกับมะนาวที่ผสมไว้บนผิวบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้น้ำอุ่นเกือบเย็นล้างออกเพื่อทำให้รูขุมขนหดตัวลงและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
ฝรั่ง ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากเหมือนกัน ในเนื้อฝรั่งสด 100 กรัม (ประมาณ 1 ผลกลาง) จะมีวิตามินซีมากถึง 160 มิลลิกรัม ซึ่งเกินพอต่อความต้องการของร่างกายใน 1 วัน ในการรับประทานฝรั่งห้ามปอกเปลือก เพราะมีวิตามินซีอยู่ที่เปลือกนี่ล่ะ และควรรับประทานฝรั่งตอนที่เปลือกยังสีเขียวอยู่ เพราะถ้าฝรั่งเปลี่ยนสี หรือเมื่อสุกวิตามินซีจะลดลง
กีวี เนื้อสีเขียวของกีวีนั้นมีวิตามินซีอยู่มากมายเลย โดยกีวี 100 กรัมจะให้วิตามินซีประมาณ 105 มิลลิกรัม หรือถ้าเป็นกีวี 2 ผล ก็จะให้วิตามินซีประมาณ 137 มิลลิกรัม กีวียังมีกากใยมาก อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ทองแดง และโฟเลต แคลอรี่ก็ต่ำ เป็นผลไม้ที่ดีต่อการรับประทานเพื่อคุมน้ำหนัก
ลิ้นจี่ มีรสเปรี้ยวอมหวานชนิดนี้ให้วิตามินซีถึง 71 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม มีสรรพคุณช่วยบำรุงหลอดเลือด ป้องกันโรคกระดูกและฟัน แก้ไอเรื้อรัง แก้คัดจมูกได้ แต่อย่ารับประทานเยอะเกินไปจะทำให้เกิดอาการร้อนในได้
มะละกอสุก เนื้อมะละกอสุก 100 กรัม มีวิตามินซีราว ๆ 70 มิลลิกรัม จะช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด โรคเลือดออกตามไรฟันได้ มะละกอจะช่วยในการขับปัสสาวะ เป็นเหมือนยาระบายเพียงเล็กน้อย ช่วยแก้อาการท้องผูก ตอนรับประทานไม่ควรปอกเปลื่อกหนาเกินไป เพราะที่บริเวณเปลือกและใต้ผิวเปลือกมีสารที่สามารถต้านอนุมูลอิสระได้
สตรอเบอร์รี่ ในสตรอเบอร์รี่มีวิตาวินซี รวมถึงวิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเซียม แถมด้วยกรด Ascorbic acid ซึ่งสามารถช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง เพียงรับประทานสตรอเบอร์รี่สดทุกวัน ก็จะทำให้ผิวพรรณของเรา จะเรียบเนียนเปล่งปลั่ง ช่วยชะลอความชรา และการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร โดยนำสตรอเบอร์รี่ 3-4 ผล โยเกิร์ต1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บดสตรอเบอร์รี่ให้ละเอียด เติมโยเกิร์ต และน้ำผึ้งลงไปเพื่อให้เป็นส่วนผสมข้นๆ ทาลงบนใบหน้าและลำคอที่ทำความสะอาดแล้ว ยกเว้นรอบบริเวณดวงตาทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โยเกิร์ตจะช่วยสร้างความสมดุลให้ผิวในขณะที่สตรอเบอร์รี่ช่วยทำความสะอาดและกำจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพทำให้ผิวจะกระจ่างใสและสดชื่น
มะนาว เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จะช่วยให้เรานั้นมีผิวพรรณที่นุ่มเนียนสดใส และเปล่งปลั่งด้วย โดยผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกและดินสอพอง 4-5 เม็ด นำดินสอพองและมะนาวมาผสมให้เข้ากัน จะได้ครีมที่เหนียวข้น พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง จะทำให้หน้าใสมากขึ้น หรือผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมมาคนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็จะทำให้ใบหน้าอ่อนวัย ใส่เปล่งปลั่ง
สัปปะรด จะอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ อันได้แก่ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของเซลล์ผิวหนัง กินบ่อยๆ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีอีกด้วย โดยผสมน้ำสับปะรด น้ำผึ้ง น้ำสะอาดคนให้เข้ากัน พอกให้ทั่วบริเวณใบหน้ายกเว้นบริเวณปากและดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก สับปะรดช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และลดการอักเสบของผิวได้สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน A วิตามิน C สูงช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีเกลือแร่อีกหลายชนิดช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น
ส้ม ทุกคนกก็หน้าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ส้มอุดมไปด้วยเส้นใยธรรมชาติ วิตามินซี เกลือแร่ และคอลลาเจนสูงทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น และมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่ง ชุ่มชื้นขึ้น โดยนวดเปลือกส้มแล้วสับให้ละเอียด จากนั้นนำไปทาบริเวณใบหน้า คอ และไหล่แล้วปิดทับด้วยผ้าบางๆ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เสร็จแล้วใช้ครีมบำรุงผิวตามปกติ สูตรนี้จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าได้มากเลยทีเดียว หรือ ผสมเนื้อส้ม 1 ผล กับ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย นำมาปั่นรวมกับโยเกิร์ต โดยไม่ต้องปั่นระเอียดมากนัก นำส่วนผสมที่ได้มาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปากเอาไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก